ใบพัดของพัดลมอุตสาหกรรมประเภทนี้จะขับอากาศในแนวแกนเพลาจากทางเข้า (inlet) ถึงทางออก (outlet) โดยหลักการแล้ว การทำงานของพัดลมประเภทนี้เกิดจากการหักเหของอากาศโดยใบพัดในแนวแกนเป็นรูปเกลียว (helical pattern) ทำให้อัตราการไหล (flow rate) มากที่ความดันต่ำ โดยใบพัดอาจเป็นแบบมุมใบคงที่ (fixed pitch) และแบบปรับมุมใบได้ขณะใบพัดหยุดหมุน (adjustable pitch) และแบบปรับมุมใบได้ขณะใบพัดกำลังทำงานหรือเคลื่อนที่ (controllable pitch) สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้

Propeller fans (PP) หรือ panel fans

โดยในอดีตเคยเรียกว่า disk fans เป็นพัดลมที่ใช้กันโดยทั่วไป มีน้ำหนักเบา ราคาถูก ให้ปริมาณลมน้อยที่ความดันต่ำ

Tube axial fans (TA)

เป็นพัดลมอุตสาหกรรมที่ติดตั้งใบพัดอยู่ในท่อทรงกระบอก ซึ่งเป็นตัวบังคับให้ลมเข้าและลมออกอยู่ในทิศทางขนานกับแนวเพลา ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและสามารถสร้างความดันได้สูงขึ้น

Vane axial fans (VA)

เป็นพัดลมอุตสาหกรรมที่ติดตั้งใบพัดอยู่ในท่อทรงกระบอกเหมือน tube axial fan แต่มีแผ่นนำทิศทางลม (guide vanes) เพื่อกำจัดหรือลดการหมุนวน (spin) ของอากาศที่ผ่านใบ ทำให้พัดลมชนิดนี้ให้ความดันสูงกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าสองแบบแรก สำหรับ guide vanes สามารถติดตั้งได้สองแห่ง ที่ทางเข้าเรียกว่า inlet guide vanes หรือที่ทางออกเรียกว่า outlet guide vanes

ในกรณีของ inlet guide vanes จะทำหน้าที่ปรับทิศทางลมที่เข้ามายังใบพัดให้หมุนวนในทิศทางตรงข้ามกับการหมุนของใบ ซึ่งมีผลทำให้ความเร็วลมสัมพัทธ์ (relative air velocity) เพิ่มขึ้น เหมือนกับว่า inlet guide vanes ทำให้ความเร็วของการหมุนเพิ่มขึ้น เป็นผลทำให้ระดับเสียงเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาซึ่งมักเกิดขึ้นคือการหมุนวนของอากาศที่เข้ามายังใบพัดไม่เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ ทำให้การทำงานไม่ได้ผลเท่าที่ควร สำหรับการใช้งาน inlet guide vanes มักใช้ในกรณีที่มอเตอร์ต้องอยู่ทางด้านลมเข้า เพื่อให้ง่ายในการซ่อมบำรุงและแผ่นนำทิศทางลมต้องติดรอบมอเตอร์เพื่อประหยัดพื้นที่ หรือในกรณีที่ลมเข้ามีความปั่นป่วน (turbulence) สูงมากจากตัวลดปริมาณลม (damper) ข้องอ (elbow) ในกรณีนี้ inlet guide vanes จะช่วยลดความปั่นป่วนของลมที่จะเข้าที่ใบพัดให้มีความราบเรียบยิ่งขึ้น

ส่วน outlet guide vanes มักทำหน้าที่ปรับลดความเร็วลมที่ออกจากใบพัด ทำให้สามารถเปลี่ยนพลังงานจลน์ (kinetic energy) หรือความดันเนื่องจากความเร็ว (velocity pressure) ไปเป็นพลังงานศักย์ (potential energy) หรือความดันสถิต (static pressure) และความเร็วลมสัมพัทธ์ (relative air velocity) ลดลง เป็นผลทำให้ระดับเสียงลดลง โดยรวมแล้ว outlet guide vanes จึงเป็นที่นิยมในการใช้งานมากกว่า